เมียนมาร์เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือที่เรียกกันว่าอาเชี่ยน เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยดินแดนที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบ รุ่งเรืองด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติอันสมบูรณ์ เมียนมาร์จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต เพื่อที่จะเข้าใจและเรียนรู้ประเทศเมียนมาร์อย่างถูกต้องนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการเดินทางการท่องเที่ยวเมียนมาร์และสัมผัสบรรยากาศต่าง ๆ ด้วยตนเอง ดังนั้น นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องรู้บางสิ่งบางอย่างก่อนการเดินทาง

วีซ่า

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนที่จะวางแผนเดินทางไปเมียนมาร์นั้น ควรทราบข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับวีซ่า เนื่องจากแต่ละประเทศจะมีวีซ่าที่มีระยะเวลาและประเภทของวิซ่าที่แตกต่างกัน ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรให้ความสำคัญกับการยื่นขอ eVisa การยกเว้นวีซ่า และ Visa-on-arrival เพื่อจะได้ไม่ประสบปัญหาในระหว่างการเดินทาง โดยสามารถหาข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าได้ที่นี่

วางแผนการเดินทางที่น่าตื่นเต้น

เมียนมาร์เป็นประเทศใหญ่มาก แต่ละรัฐและภูมิภาคเต็มไปด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยว จึงเป็นไปได้ยากที่จะไปได้ครบทุกสถานที่ของประเทศในครั้งเดียว การกลับมาเยี่ยมชมเมียนมาร์อีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยินดีต้อนรับเสมอ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวสามารถลดทอนการเดินทางให้เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเพียงครั้งเดียวได้ ถ้ามีการวางแผนและใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวของกระทรวงการการท่องเที่ยวและโรงแรม tourisminmyanmar.com.mm e-guides ได้นำเสนอคำแนะนำโดยยึดตามจุดหมายปลายทางเป็นหลัก สามารถดาวน์โหลดและดูข้อมูลได้ คู่มืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัฐ กิจกรรมท่องเที่ยว สถานที่เที่ยวชม และสถานที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีโบรชัวร์ข้อมูลที่มาพร้อมกับรหัสคิวอาร์โค้ด เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ให้บริการในสนามบินของเมียนมาร์และเคาน์เตอร์ข้อมูล

การแต่งกายที่แนะนำ

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักของเมียนมาร์ สังเกตได้จากจำนวนเจดีย์วัดนับร้อยพันที่พบเห็นในประเทศ ตามเจดีย์และวัดวาอารามต่าง ๆ กำหนดให้ผู้เข้าเยี่ยมชมปิดไหล่ หน้าอก และขา เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ทราบกันว่าสภาพอากาศในเมียนมาร์ร้อนจัดและแห้งมาก ดังนั้น กางเกงยีนส์และแจ็คเก็ตเนื้อหนาจึงไม่เหมาะต่อการสวมใส่เพื่อการเดินทางในประเทศนี้เท่าไรนัก

เพื่อให้การเดินทางสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถลองสวมชุดลองยี (Longyi) ซึ่งเป็นชุดประจำชาติที่สวมใส่เป็นผ้าโสร่งที่นุ่งทั้งชายและหญิง เนื้อผ้าชุดลองยีสวมใส่สบายและช่วยระบายอากาศได้ดี คนท้องถิ่นจึงสวมใส่ไปทำงานทุกวัน เมื่อสวมชุดลองยีแล้วจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกผ่อนคลายจากกางเกงที่รัดรูปแบบสากลทั่วไป

เที่ยวอย่างฉลาด ใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดชอบ

หากต้องการที่จะท่องเที่ยวแบบคนท้องถิ่นในเมียนมาร์อย่างแท้จริง ต้องลองใช้บริการการคมนาคมขนส่งแบบดั้งเดิมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเหมือนกับคนในพื้นที่ใช้ทุกวัน รวมไปถึงเกวียนม้า เกวียนวัว และจักรยานที่หาได้ง่ายทั่วไปในประเทศ รูปแบบการคมนาคมเหล่านี้ ยังช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ชนบทอันกว้างใหญ่โดยรอบ ในขณะที่เดินทางอย่างช้า ๆ ไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนทางเลือกที่รวดเร็วกว่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทาง รถไฟ หรือรถจักรยานยนต์ก็มีให้บริการเช่นกัน

เทศกาลของชาวเมียนมาร์

เทศกาลต่าง ๆ ในเมียนมาร์นั้นยิ่งใหญ่มาก นักท่องเที่ยวที่เคยร่วมในเทศกาลเหล่านี้มักจะประทับใจกับความมีชีวิตชีวาของผู้คนที่เฉลิมฉลอง ตั้งแต่การเต้นรำ ร้องเพลง ขบวนแห่ และสวดมนต์ ผู้เข้าร่วมงานจะรู้สึกราวกับอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมของชาวเมียนมาร์ เทศกาลเหล่านี้นับเป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความปีติยินดี และการสิ้นสุดของความขัดแย้ง จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สดใสมากมายและเชิญชวนทุกคนให้เข้าร่วมงาน ยิ่งไปกว่านั้น คนท้องถิ่นมีความเป็นกันเองและเป็นมิตรอย่างมาก พวกเขายินดีที่จะแบ่งปันวัฒนธรรมที่แสนอบอุ่น จึงไม่แปลกใจว่าเหตุใดนักท่องเที่ยวต่างอยากเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลเหล่านี้ไม่ว่าจะเทศกาลใหญ่หรือเล็ก

การต้อนรับของชาวเมียนมาร์

วัฒนธรรมท้องถิ่นมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ธรรมชาติที่อยู่เบื้องหลังวัฒนธรรมเหล่านี้เป็นของขวัญที่ล้ำค่าสำหรับการท่องเที่ยว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทัดเทียมกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวมาแล้ว ชาวเมียนมาร์ได้แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะของตนได้อย่างน่าภาคภูมิใจโดยเฉพาะประเพณีโบราณ และอาหารแบบดั้งเดิม รวมถึงงานหัตถกรรมทำมือต่าง ๆ เพื่อให้ชาวโลกได้เห็นวัฒนธรรมที่ภาคภูมิใจซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการยินดีต้อนรับของชาวเมียนมาร์